ฝึกเป็นคนคิดบวกแบบง่ายทำให้แง่บวก
การคิดบวก ส่งผลดีต่อร่างกายและทำให้สุขภาพจิตดีขึ้นด้วย อยากเป็นคนคิดบวกทำได้ไม่ยาก มาทำตามเคล็ดลับดี ๆ ตามนี้เลย1.ยิ้มไว้เสมอ : การยิ้มให้ตัวเองที่หน้ากระจก ทำให้อารมณ์ดีขึ้น และทำให้ความเครียดลดลง รวมทั้งการมองหาอารมณ์ขันในทุกๆ สถานการณ์จะช่วยเปลี่ยนทุกเรื่องเป็นแง่บวก ทำให้สุขภาพจิตดีขึ้นด้วย2.ทบทวนสิ่งดีๆ ในชีวิต : เปิดอ่านบันทึกวันที่เปี่ยมสุข หรือดูภาพถ่ายคลิปวีดีโอเวลาที่ประทับใจ ช่วงเวลาของความสำเร็จและภาคภูมิใจจะช่วยเพิ่มความคิดบวกและเป็นการเพิ่มกำลังใจให้กับตัวเอง3.ให้รางวัลตัวเองบ้าง : ลองให้รางวัลตัวเองเล็กๆ น้อยๆ เช่นคำชมอาหารมื้ออร่อย เสื้อผ้าชุดใหม่ เวลาที่ทำอะไรสำเร็จหรือในโอกาสพิเศษ เพราะความคิดบวกจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าเรายังไม่เกิดความรู้สึกที่ดีกับตัวเองก่อน4.เลิกเป็นคนขี้บ่น : การบ่น เป็นการย้ำถึงความคิดด้านลบที่แสดงออกมาเป็นคำพูด หลายคนบ่นเพื่อต้องการให้สิ่งรอบข้างเป็นไปตามที่หวัง อย่าลืมว่ามีอีกหลายวิธีที่จะทำให้คนรอบข้างหรือสิ่งรอบกายเป็นไปตามที่คาดหวัง เช่น ชมเชยก่อนแล้วค่อยให้คำแนะนำ5.ชื่นชมสิ่งรอบตัว : การพูดชื่นชม ขอบคุณสิ่งต่างๆ รอบตัว ช่วยทำให้จิตใจของเราคิดบวกได้มากขึ้น ดังนั้นควรหาโอกาสชื่นชมผู้อื่น (ตามความเป็นจริง) เพราะการชื่นชมไม่ใช่แค่ทำให้ผู้อื่นเป็นสุข แต่ยังทำให้เห็นถึงความสำคัญของตัวเราด้วย6.อยู่ใกล้คนที่คิดบวก : การได้พูดคุยกับคนที่มีความคิดเป็นบวก จะช่วยให้เราซึมซับวิธีการคิดด้านบวกไปด้วย หากได้พบคนที่มีความคิดดีๆ อย่าลืมที่จะผูกมิตรกับคนเหล่านั้น7.อ่านธรรมะ คำคม ข้อคิด : ข้อคิดดีๆ สามารถจุดประกายความคิดด้านบวกให้เราได้ การเขียนบันทึกคำคมที่อ่านแล้วประทับใจแปะไว้ในที่ๆ ผ่านตา จะเป็นเหมือนเครื่องเตือนใจเวลาที่เรามีความคิดที่ไม่ดีได้8.คิดถึงคนที่ลำบากมากกว่าเรา : มีชีวิตของคนอีกหลายคนที่ทุกข์ยากมากกว่าเรา แต่พวกเขาก็ยังฝ่าฟันและสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ จนประสบความสำเร็จได้ การอ่านตัวอย่างชีวิตของบุคคลเหล่านี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและเพิ่มความคิดด้านบวกได้9.ช่วยเหลือผู้อื่นให้เป็นสุข : การช่วยเหลือคนอื่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องง่ายๆ ไปจนถึงการช่วยชีวิต นอกจากได้ทำบุญแล้ว ยังช่วยสร้างความรู้สึกและความคิดด้านบวกต่อตัวเรา การให้อภัยก็รวมอยู่ในการช่วยเหลือผู้อื่นด้วย10.หยุดคิดลบ : ฝึกรู้เท่าทันความคิดของเรา เมื่อคิดลบควรเตือนตัวเองให้เร็วที่สุด จากนั้นหันเหความคิดไปสู่สิ่งอื่น อย่างการหากิจกรรมอื่นๆ ทำ เช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือ ฯลฯ11.ฝึกสมาธิ : ความคิดด้านลบมักเกิดจากการจมอยู่กับอดีต หรือกังวลกับอนาคตที่ยังไม่เกิด ลองฝึกทำสมาธิเพื่อช่วยดึงจิตใจให้กลับมาอยู่กับเวลาปัจจุบัน ลดความคิดด้านลบ และช่วยให้เลิกคิดฟุ้งซ่านอีกด้วย12.เปลี่ยนกรอบความคิดใหม่ : หากเจอปัญหา คนคิดลบกับคนคิดบวกจะมองต่างกัน คนคิดลบมักมองว่าเป็นความทุกข์ แต่คนคิดบวกกลับมองว่าเป็นความท้าทาย ลองฝึกคิดว่าเมื่อไรที่เจอความทุกข์ให้มองว่ามันคือบททดสอบเป็นความท้าทายใหม่
https://www.thaihealth.or.th/Content/54812-12%20%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%20%E0%B8%9D%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%20%E0%B9%86.html
หน้า:
[1]