admin โพสต์เมื่อ 20-8-2021 15:33:52

เรื่องย่อเปลือยชีวิตพริตตี้ 5

เปลือยชีวิตพริตตี้ 5

งานเอ็นเตอร์เทนของพริตตี้นนั้นแบ่งเป็นสองระดับ คือเอ็นเบา กับ เอ็นแรง อ๊ะ มันต่างกันยังไง

เอ็นเบาก็คือ กินดื่มกันสนุกสนานเฮฮาเท่านั้น ไม่ถูกเนื้อต้องตัวกันมาก มีบ้างเล็กน้อยตามความสมัครใจของพริตตี้ การดื่มก็ดื่มกันแบบพอสนุก ไม่มอมกันถึงตาย ส่วนเอ็นแรงก็เดาได้ไม่ยากครับ ดื่มหนัก จัดหนักทุกอย่าง จับไม้จับมือ มีกอด มีหอม ถึงจูบก็มี อันนี้แล้วแต่คน และแล้วแต่สถานการณ์ หนักมากก็ถึงล้วงควักกันเลย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสถานที่อีกว่ามิดชิดแค่ไหน และเมากันแค่ไหน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่เลยไปถึงขั้นนอนด้วยกันนะครับ (อันนั้นเป็นงานอีกแบบหนึ่ง ซึ่งเดี๋ยวจะได้เล่าต่อไป) เวลาจ้างพริตตี้งานเอ็นนั้น ถ้าเป็นเอ็นแรงต้องบอกก่อนนะครับ เพราะบางคนไม่รับ รับแต่เอ็นเบา ส่วนพริตตีที่รับงานเอ็นแรง ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะขายตัวนะครับ หลายคนก็รับแค่เอ็น แรงแค่ไหนก็สู้ แต่ไม่นอนกับลูกค้า

ถ้าพริตตี้ที่รับงานขายตัวด้วยนั้น เมื่อก่อนจะเรียกว่ารับงานซัม จะมาจากอะไรไม่ทราบได้ (มีพริตตี้บางคนบอกว่า จากคำว่า Something หมายถึงมีอะไรกัน) แต่ปัจจุบัน คำนี้หายไปแล้ว สังคมพริตตี้จะเรียกว่า งานวี มาจากคำว่า วีไอพี

เด็กรับงานวีบางคนไม่รับงานเอ็นนะครับ เสียเวลาเขา เขาไม่อยากมากินเที่ยวด้วย มาถึงขึ้นห้อง เอากันเสร็จ รับเงิน กลับบ้าน อย่างนี้ก็มีไม่น้อย แต่บางคนก็รับงานที่ เอ็นบวกวี คือกินเที่ยวกันก่อน จบที่นอนด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีอีกประเภทหนึ่งเรียกว่า เอ็นเผื่อวี คือจ้างมาเอ็นก่อน ถ้าถูกใจค่อยจ่ายเพิ่มค่างานวี เพื่อนผมเคยเรียกงานอย่างนี้ว่า Hybrid

ค่าตัวพริตตี้แต่ละงานเป็นไงกันบ้าง จ้างกินข้าวนั้นบอกไปแล้วว่า 1500 ขึ้นไป งานเอ็นเบา ส่วนใหญ่ 2000 ขึ้น ถ้าเอ็นแรงก็ต้องเพิ่มหน่อย เป็น 3000 ขึ้นไปถึงห้าหกพัน ส่วนงานวีนั้น ระดับพริตตี้จริงๆเขารับกันหลักหมื่นนะครับ ตั้งแต่ หมื่นนึงไปจนถึงหลายหมื่น ขึ้นอยู่กับความสวย และระดับความดังในสังคมพริตตี้

พริตตี้เกือบทุกคนรับงานกินข้าว พริตตี้ที่รับงานกินข้าวเกือบทุกคนรับงานเอ็น แต่บางคนเท่านั้นที่รับงานเอ็นแรง และบางส่วนที่รับงานเอ็นแรงก็รับงานวีด้วย สัดส่วนจะมากน้อยแค่ไหนผมไม่ทราบ แต่จะเหมาว่าพริตตี้ทุกคนขายตัวนั้น ไม่ได้เด็ดขาด คนที่ไม่ขายเขาก็ไม่ขายนะครับ ส่วนคนที่ขายนั้น บางคนก็เปิดเผยไม่แคร์ใคร บางคนก็รับแบบเงียบๆ ไม่บอกเพื่อนฝูง รู้เฉพาะโมเดลลิ่ง และ ลูกค้า ทำไมต้องรับแบบเงียบๆ เหรอ เพราะพริตตี้ก็ดูกถูกกันในเรื่องอย่างนี้นะครับ พริตตี้เอ็มซี ก็ดูกถูกพริตตี้ยืนบูทเฉยๆ พริตตี้ที่งานเยอะไม่ต้องรับงานกินข้าวก็ดูถูกพริตตี้งานน้อยที่ต้องไปรับงานกินข้าว พริตตี้ที่รับแต่งานกินข้าว ก็ดูถูกพริตตี้ที่รับงานเอ็น พริตตี้ที่รับงานเอ็นเบาก็ดูถูกพริตตี้ที่รับงานเอ็นแรง พริตตี้ที่รับงานเอ็นแรงก็บอกว่ากูไม่ได้ขายตัว ยังไงกูก็ดีกว่าพวกรับงานวี ว่ากันไปเป็นทอดๆ สุดท้าย พริตตี้ที่รับงานวีก็บอกว่า กูดีกว่าหมอนวด เพราะกูรับลูกค้าแค่วันละคน

ถึงตรงนี้คงมีบางคนคิดว่า ไม่เห็นคุ้มเลย จ่ายแพงขนาดนี้ เที่ยวเล้าจน์ เรียกเด็กนั่งดริงค์คุ้มกว่าจ้างพริตตี้งานเอ็น บางคนชอบเที่ยวอ่างก็บอกคุ้มกว่าจ้างพริตตี้งานวี อันนี้เป็นเรื่องของกำลังทรัพย์ครับ คนมีตังค์เขาพอใจจ่าย เท่าไรเขาก็จ่าย ถ้าเขาพอใจ ส่วนคนตังค์น้อยก็ต้องคิดเรื่องคุ้มไม่คุ้ม เพราะคนที่บอกว่าไม่คุ้มนั้น มักจะเริ่มว่า “ถ้ากูมีตังค์นะ กูไม่จ่ายหรอก” แสดงว่ายังไม่มีตังค์ ถ้ามีความคิดอาจเปลี่ยน
เรื่องของพริตตี้ยังมีอีกเยอะนะครับ ติดตามกันต่อ ยังไม่จบง่ายๆ

จากกระทู้ที่มา
https://pantip.com/topic/36454198
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: เรื่องย่อเปลือยชีวิตพริตตี้ 5