admin โพสต์เมื่อ 18-10-2011 11:31:20

MC (เอ็มซี) คืออะไร แล้วพริตตี้อย่างหนูจะเป็น MC ได้มั้ย ?

การเป็นพิธีกร หรือ Master of ceremony ที่เราเรียกกันแบบง่ายๆ ว่า M.C.นั้น เป็นอาชีพที่สำคัญ ในการดึงดูดความสนใจให้ผู้ชม หรือคนดูนั้น ติดตามในสิ่งที่เขาต้องการนำเสนอ ตั้งแต่ต้นไปจนจบรายการ ซึ่งพิธีกรที่ดีจะต้องทำให้ผู้ชมประทับใจในการดำเนินรายการของเขาให้ได้ ทั้งท่วงท่า วาจา กิริยาอาการต่างๆ ตลอดจนความสามารถในการทำให้ผู้ชมมีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของรายการและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมต่างๆ เป็นอย่างดี สำหรับในวงการพริตตี้นั้น การเป็น M.C.ถือว่าเป็นงานอีกแขนงหนึ่งที่พัฒนารุดหน้าพริตตี้ขึ้นไปอีก ถือว่าเป็นพัฒนาการอีกลำดับขั้นหนึ่งของพริตตี้ ซึ่งพริตตี้นั้นอาจจะมีหน้าที่ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้คนที่ผ่านไปมา ด้วยรูปร่างและบุคลิกลักษณะที่ดี บวกรวมกับความสามารถในการประชาสัมพันธ์สินค้าต่างๆ ให้มีความน่าสนใจ แต่การเป็น M.C.นั้นถือว่าเป็นการเรียกความสนใจของคนทั่วไป ตั้งแต่ยังไม่ทันได้เห็นตัวผู้พูดกันเลยทีเดียว
เพราะเสียงของ M.C.ย่อมสามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้ในระยะไกล เรียกว่าตามความสามารถที่ลำโพงจะถ่ายทอดสัญญาณเสียงไปถึงกันเลยทีเดียว เมื่อเป็นเช่นนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ M.C.จะต้องมีพลังเสียงที่น่าฟัง สามารถสะกดผู้ฟังให้สนใจในสิ่งที่พิธีกรนำเสนอได้และจำเป็นต้องมีทักษะอื่นๆ ประกอบอีกหลายด้านด้วยกัน มิใช่ว่าใครๆ ก็สามารถเป็นกันได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเสียทีเดียว ขอเพียงแค่รู้จักฝึกฝนและปรับปรุงทักษะต่างๆ ของตนเองอยู่เสมอ การเป็น M.C.ก็ไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินฝันเลย สำหรับใครหลายๆ คน ยิ่งถ้าหากคุณๆ ที่เป็นพริตตี้อยู่แล้ว โอกาสที่จะพัฒนาตนเองให้ก้าวมาอยู่ในตำแหน่งของ M.C.นั้นอยู่ใกล้นิดเดียว สิ่งที่ผู้ต้องการเป็น M.C.จำเป็นจะต้องเรียนรู้ก็คือ ทักษะต่างๆ ที่สามารถฝึกฝนได้ด้วยตนเอง ซึ่ง สิ่งที่สำคัญในการเป็น M.C. คือการมีน้ำเสียงที่หนักแน่น ชัดเจน และน่าฟัง ไม่ใช่พูดเบาหรือค่อยจนเกินไป หรือพูดติดๆ ขัดๆ ไม่ปะติดปะต่อก็จะทำให้คนดูเสียอรรถรส และจะเบื่อเอาได้ง่ายๆ จึงต้องหมั่นฝึกฝนวิธีการพูด ทั้งการสะกด อักขระต่างๆ การออกเสียง ร ตัวควบกล้ำ ต้องชัดเจน น้ำเสียงต้องฟังง่ายและเป็นมิตรกับคนดู และยังต้องฝึกการพูดให้มีความเร็วที่เหมาะสม ไม่ช้าหรือเร็วจนเกินไป ควรฝึกกลั้นลมหายใจเพราะเวลาพูดต่อกันหลายประโยคนานๆ จะได้ไม่เหนื่อย เวลาพูดควรทำจิตใจให้เบิกบาน เสียงจะได้มีความแจ่มใส และเวลาพูดควรจะมีรอยยิ้มอยู่ด้วยเสมอ

สิ่งเหล่านี้จะเป็นเสน่ห์ของ M.C. เราจะไม่รู้สึกเกร็ง และคนฟังก็จะรู้สึกดีไปด้วยสิ่งที่จำเป็นอีกอย่างหนึ่งก็คือ การวางท่าทาง กิริยา บุคลิกลักษณะต่างๆ ต้องให้ดูมีความมั่นใจ การยืนต้องสง่างาม การเดินต้องมีมาด ภาพพจน์โดยรวมต้องดูดี และเป็นไปในทางเดียวกันกับเรื่องราวที่พูดถึง หรือนำเสนออยู่ ใช้ลีลาประกอบให้เหมาะสม ควรฝึกหน้ากระจกเพื่อดูว่าตัวเราเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้ควรฝึกฝนจนติดเป็นนิสัย เพื่อให้เรามีบุคลิกที่ดี น่าสนใจอยู่เสมอ การใช้สายตา เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องหมั่นฝึกให้มั่นคง เพราะเวลาพูดก็เหมือนเราต้องสื่อสารกับคนดู และผู้ที่ร่วมรายการกับเรา ต้องมีสมาธิ แยกแยะให้ถูก เวลาพูดกับคนดูควรส่งสายตาไปยังผู้ชม ณ จุดใดจุดหนึ่ง อย่ากวาดสายตาไปมา แต่ควรใช้วิธีหันหน้าแทนเพื่อเปลี่ยนมุมมอง ไม่ควรทำตาหลุกหลิก หรือมองสิ่งอื่นที่ทำให้เราไขว้เขว สบตากับผู้ชมเป็นระยะระยะ และประสานสายตากับทีมงานบ้างเพื่อความเรียบร้อยของกำหนดการต่างๆ ว่าเป็นไปตามที่วางไว้หรือไม่ หรือหากต้องมีการเปลี่ยนแปลงสิ่งใดกะทันหัน เราจะได้เตรียมตัวได้ทัน หากมีกล้องบันทึกภาพ พิธีกรควรมองกล้องเป็นระยะ ฝึกสบตากับกล้องเพื่อจะได้ดูเหมือนสื่อสารกับผู้ชมเทปบันทึกภาพนั้นด้วย บางคนมองที่ไฟแดงๆ บนตัวกล้องทำให้ตาเหลือบขึ้นไป ดูไม่สวยงามยิ่งนัก

การเป็นพิธีกรที่ดี ที่สามารถดำเนินรายการได้น่าสนใจนั้น ต้องรู้จักวางตัวให้เหมาะสม ศึกษากลุ่มผู้ชม ความสนใจต่างๆ สร้างบรรยากาศที่ดีในการดำเนินรายการ สื่อสารกับผู้ชมได้เป็นอย่างดี สร้างความเข้าใจที่ตรงกัน และให้เกียรติผู้ชมเสมอ เทคนิคที่สำคัญก็คือ การทำตัวให้กลมกลืนกับผู้ชม เช่น เมื่อเราจัดงานเกี่ยวกับวัยรุ่น ต้องวางบุคลิกท่าทางให้มีความกระฉับกระเฉง คล่องแคล่ว การแต่งกายต้องดูทันสมัย ยิ้มแย้มแจ่มใส หากกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้หญิงก็ต้องแต่งกายให้ดูดี ชวนมอง เน้นความสะอาด สวยงาม เป็นต้น พิธีกรที่ทำงานสำเร็จนั้นต้องทำให้การดำเนินรายการสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีเสมอ ทั้งนี้คือการสามารถสื่อสารข้อมูลของทั้งผู้จัดงานและผู้ชมหรือผู้เข้าร่วมกิจกรรมให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน บรรลุวัตถุประสงค์ในการจัดงานนั้นๆ และสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้ รวมถึงสามารถทำให้ผู้ชมติดตามชมไปตลอดจนจบรายการ M.C. ที่ทำเช่นนี้ได้จึงจะถือว่าประสบความสำเร็จ และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ทักษะในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพราะเหตุการณ์ไม่คาดคิดต่างๆ สามารถเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ ดังนั้นพิธิกรที่ดีจึงควรมีปฏิภาณไหวพริบต่างๆ ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้ และตรึงคนดูไว้ให้จดจ่ออยู่กับการนำเสนอรายการของเราให้ได้ ไม่ว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร พิธีกรที่ดีจะรู้ว่าควรจะจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ อย่างไร สามารถก่อให้เกิดความประนีประนอมได้หากเกิดเหตุการณ์พิพาทหรือถกเถียงกันขึ้นเขาก็จะต้องสามารถจัดการกับเรื่อง
ต่างๆเหล่านี้ได้นอกจากนี้การจะเป็น M.C.ที่มีความสามารถนั้น จำเป็นจะต้องศึกษาเทคนิคและวิธีการต่างๆ และฝึกฝน รวมถึงปรับให้เข้ากับบุคลิกของตนเอง เพื่อความน่าสนใจและสร้างความประทับใจให้กับผู้ชม

ซึ่งคำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการเป็น M.C.ก็มีดังนี้

- ศึกษาจุดเด่น จุดด้อย ของพิธีกรที่มีชื่อเสียงทั้งของไทยและของต่างประเทศ จับจุดเด่นสูงสุดของเขาให้ได้ว่า อะไรคือสิ่งที่ทำให้พิธีกรคนนั้นเป็นที่ชื่นชมของบุคคลทั่วไป แล้วลองนำเอาสิ่งที่คิดว่าดี มาประยุกต์ให้เหมาะกับตัวเรา
- ติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมอย่างใกล้ชิด เพื่อทำตนเองให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ
- เรียนรู้การใช้เทคนิคการสร้างอารมณ์ขัน หรือเล่นมุข ด้วยการดัดแปลงเหตุการณ์เฉพาะหน้ามาเติมเสน่ห์ให้กับการดำเนินรายการ
- จัดทำคลังความรู้ด้านต่าง ๆ เช่น การใช้คำพูด สำนวน สุภาษิต คำพังเพย คำคมต่างๆ เก็บสะสมความรู้เหล่านี้ไว้ เพื่อนำมาใช้ประกอบการดำเนินรายการ
- ฝึกใช้ความคิดสร้างสรรค์ด้วยการมองเหตุการณ์ต่าง ๆ ในมุมที่คนอื่นมองข้าม แล้วสร้างให้เกิดเสียงหัวเราะ และรอยยิ้ม
- อ่านหนังสือให้มาก ๆ ก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่แล้วว่า หนังสือ คือแหล่งความรู้
- เข้ารับการอบรมเกี่ยวกับเรื่องการเป็นพิธีกรอย่างสม่ำเสมอ เพราะอาจเป็นการพัฒนาความรู้ให้กับตนเองในแง่มุมของผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้ที่มีความสนใจในด้านเดียวกัน ในมุมมองที่เราอาจจะนึกไม่ถึงก็ได้

นอกจากนี้ผู้ที่จะเป็น M.C. จำเป็นต้องฝึกฝนทักษะเหล่านี้ให้มากๆ ได้แก่ ทักษะในการพูดในโอกาสต่างๆ ทั้งคำทักทายหรือปฏิสันถาร คำกล่าวนำเพื่อโยงเข้าสู่เรื่องราวที่ต้องการนำเสนอ การแจ้งกำหนดการต่างๆ การแนะนำวิทยากร การกล่าวสรุป และการกล่าวขอบคุณ ทั้งนี้ต้องปรับให้เหมาะสมกับตัว M.C. เอง และบรรยากาศของงานที่จัด ซึ่งก็บอกได้คำเดียวว่า แล้วแต่ความสามารถของแต่ละบุคคล แม้อาชีพ M.C. ในบางครั้งอาจถูกมองว่าเป็นอาชีพของคนหน้าตาดี แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเป็น M.C. จำเป็นจะต้องอาศัยความรู้ ความสามารถ ทักษะ และพรสวรรค์ต่างๆ มากมายดังที่กล่าวมา ไฉนเลยจะเป็นอาชีพที่ใครๆ ก็สามารถทำให้ ขอให้แค่หน้าตาดีอย่างเดียวก็พอ เพราะอย่างน้อยๆ หากคุณสมบัติ รูปสมบัติของคุณมีมากมาย แต่ขาดเพียงความตั้งใจจริงเท่านั้น คุณก็จะเป็นคนหน้าตาดีที่ไม่มีสิทธิ์เป็น M.C. ได้เลย

จันเจ้า โพสต์เมื่อ 19-2-2012 13:32:36

{:af48944b:}

Neptune โพสต์เมื่อ 23-7-2012 09:30:22

{:4412144b:}
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: MC (เอ็มซี) คืออะไร แล้วพริตตี้อย่างหนูจะเป็น MC ได้มั้ย ?